นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
1. บทนำ
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์ DGTFarm (www.dgtfarm.com) และ แอพลิเคชั่น DGTFarm ที่ดำเนินการโดย สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) โดย มกอช. ได้กำหนดนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ช่วยให้ท่านได้ทราบถึงแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อเข้าใช้งานเว็บไซต์ DGTFarm (www.dgtfarm.com) และ แอปพลิเคชัน DGTFarm โดยนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ได้กำหนดนโยบายและวิธีการดำเนินการในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลของผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมหรือผู้ใช้บริการฯ (“ผู้ใช้”) ซึ่งรวมถึงผู้ใช้ที่ได้สมัครเป็นสมาชิก และผู้ใช้ที่ไม่ได้สมัครเป็นสมาชิก ซึ่งในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ (“นโยบาย”) จะชี้แจงเกี่ยวกับรายละเอียดของข้อมูลที่เก็บรวบรวม วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูล
โปรดอ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้โดยละเอียด หากท่านมีคำถามเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเรา สามารถติดต่อผ่านช่องทางการติดต่อในส่วนท้ายของนโยบายนี้
2. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
2.1 มกอช. จะใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ด้านล่างนี้ให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ทั้งนี้ มกอช. จะใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเมื่อได้รับความยินยอมจากท่าน
2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ มกอช. เก็บรวบรวมอาจถูกใช้เพื่อบางวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
(1) เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ท่านในการใช้บริการหรือเข้าใช้เว็บไซต์ DGTFarm (www.dgtfarm.com) และแอปพลิเคชัน DGTFarm
(2) เพื่อยืนยันตัวบุคคลและป้องกันการปลอมแปลงตัวตน
(3) เพื่อการบริหารจัดการบัญชีผู้ใช้ที่ท่านอาจได้ลงทะเบียนไว้กับเรา
(4) เพื่อแสดงชื่อบัญชีผู้ใช้ หรือโปรไฟล์ผู้ใช้ของท่านบนแฟลตฟอร์ม (รวมถึงการแสดงความคิดเห็นใดๆ ที่ท่านอาจโพสต์)
(5) เพื่อติดต่อหรือสื่อสารกับท่านผ่านช่องทางการติดต่อที่ระบุไว้ เพื่อวัตถุประสงค์ในการกำกับดูแล การดำเนินการบนเว็บไซต์ DGTFarm (www.dgtfarm.com) และแอปพลิเคชัน DGTFarm
(6) เพื่ออนุญาตให้ผู้ใช้อื่นติดต่อสื่อสารหรือมองเห็นกิจกรรมบางอย่างของท่านบนเว็บไซต์ DGTFarm (www.dgtfarm.com) และแอปพลิเคชัน DGTFarm
(7) เพื่อการบริหารจัดการ ตรวจสอบ หรือดำเนินการเกี่ยวกับการสั่งซื้อสินค้า การชำระเงิน การขอใบเสนอราคา การจับคู่ซื้อ-ขายสินค้า การลงขายสินค้า การจัดส่งสินค้า หรือกิจกรรมอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการซื้อ-ขายสินค้าบนเว็บไซต์ DGTFarm (www.dgtfarm.com) และแอปพลิเคชัน DGTFarm
(8) เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายและการดำเนินการทางกฎหมาย
• เพื่อตรวจสอบตัวตนในการตรวจจับการทุจริต
• เพื่อเปรียบเทียบข้อมูล และตรวจสอบข้อมูลกับบุคคลภายนอกเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลนั้นถูกต้อง
• เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับข้อร้องเรียน ความเห็น การบังคับ ข้อเรียกร้องให้ระงับการเผยแพร่ ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา ใด ๆ ที่ท่านได้อัปโหลดลงในเว็บไซต์ DGTFarm (www.dgtfarm.com) และแอปพลิเคชัน DGTFarm
• เพื่อจัดเก็บ สำรอง ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามนโยบายภายในหรือตามที่กฎหมายกำหนด
• เพื่อป้องกันหรือตรวจสอบ การกระทำที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดข้อกำหนดและเงื่อนไข นโยบายความเป็นส่วนตัว หรือนโยบายอื่นใดของ มกอช. การฉ้อโกง การกระทำที่ผิดกฎหมาย การละเว้นการกระทำ หรือการกระทำผิดใด ๆ ที่เกิดขึ้น จากการใช้บริการของท่าน
• เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย และข้อกำหนดทางกฎหมาย รวมถึงคำสั่งให้ดำเนินการภายใต้กฎหมายซึ่งเกี่ยวกับการดำเนินคดีใดๆ หรือในกรณีอื่นใดตามที่ มกอช. เห็นสมควร
• เพื่อปกป้องความปลอดภัยและสิทธิส่วนบุคคล ทรัพย์สิน และความปลอดภัยของผู้อื่น
(9) เพื่อส่งข้อมูลทางการตลาดหรือการส่งเสริมการขายบนเว็บไซต์ DGTFarm (www.dgtfarm.com) และ แอปพลิเคชัน DGTFarm ทั้งสำหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีอยู่แล้วในปัจจุบันหรือที่จะจัดให้มีขึ้นในอนาคต โดย มกอช. อาจใช้ข้อมูลการติดต่อของท่านเพื่อจัดส่งข่าวสารประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่างๆ ของ มกอช. หรือของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง
(10) เพื่อทำการส่งเสริมการขายโดยใช้ข้อมูลเนื้อหาที่ท่านสร้างหรือเผยแพร่บนเว็บไซต์ DGTFarm (www.dgtfarm.com) และแอปพลิเคชัน DGTFarm มาเป็นส่วนหนึ่งในเนื้อหาการโฆษณาและแคมเปญทางการตลาดของการส่งเสริมการขายบนเว็บไซต์ DGTFarm (www.dgtfarm.com) และแอปพลิเคชัน DGTFarm
(11) เพื่อทำการสำรวจความคิดเห็น ค้นคว้า วิจัย วิเคราะห์ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และการให้บริการบนเว็บไซต์ DGTFarm (www.dgtfarm.com) และ แอปพลิเคชัน DGTFarm
(12) เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้ โดย มกอช. มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด
2.3 มกอช. จะ/อาจจะรวมรวบ ใช้ เปิดเผย หรือประมวลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในขณะนั้น ซึ่งวัตถุประสงค์ดังกล่าวอาจไม่ปรากฏอยู่ด้านบน อย่างไรก็ตาม มกอช. จะแจ้งให้ท่านทราบเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ดังกล่าวเมื่อทำการขอความยินยอมจากท่าน เว้นแต่การการประมวลข้อมูลนั้นไม่ต้องได้รับความยินยอมจากท่านตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
3. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
3.1 มกอช. จะ/อาจจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ด้านล่างนี้ให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ทั้งนี้ มกอช. จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเมื่อได้รับความยินยอมจากท่าน
3.2 ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวกับตัวบุคคล ไม่ว่าจะบันทึกไว้เป็นรูปธรรมหรือไม่ และไม่ว่าจริงหรือเท็จ ซึ่งสามารถใช้เป็นข้อมูลที่ระบุตัวตนของบุคคลจากข้อมูลนั้น (ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม) หรือจากข้อมูลนั้นและข้อมูลอื่นใดที่เราได้เข้าถึงหรืออาจเข้าถึง
3.3 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ มกอช. เก็บรวบรวม ได้แก่
- ชื่อ-นามสกุล
- ที่อยู่ปัจจุบัน
- อีเมล
- หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือเลขประจำตัวผู้เสียภาษี
- หมายเลขโทรศัพท์
- ชื่อร้านค้า
- ที่อยู่ร้านค้า
- พิกัดร้านค้า
- ใบรับรองมาตรฐาน
- บัญชีธนาคาร
- หมายเลขพร้อมเพย์
- รูปภาพ หรือเสียง หรือวิดีโอ ที่ท่านได้อัปโหลดขึ้นไปบนแพลตฟอร์มของเรา
- ข้อมูลการซื้อ-ขายสินค้า เช่น ใบสั่งซื้อ ใบเสนอราคา ข้อมูลการชำระเงิน ข้อมูลการจัดส่งสินค้า
- ข้อมูลการใช้งาน การเข้าใช้งานแพลตฟอร์ม และข้อมูลเชิงสถิติ
- วันที่สมัครเข้าเป็นสมาชิกหรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลสมาชิก
- ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์จัดเก็บตามข้อบังคับประกาศกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
4. การรักษาความปลอดภัยสําหรับข้อมูลส่วนบุคคล
มกอช. มีมาตรการคุ้มครองความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการจากการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต การสูญหาย การใช้ข้อมูลในทางที่ผิดไปจากวัตถุประสงค์ในการจัดเก็บ การเปิดเผยและการเปลี่ยนแปลงแก้ไข การควบคุมและการอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูล รวมถึงตรวจสอบว่าข้อมูลที่มีอยู่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน
5. การใช้คุกกี้ (Cookies)
“คุกกี้” คือ ข้อมูลที่ มกอช. ส่งไปยังโปรแกรม Web Browser ของผู้ใช้บริการ และเมื่อมีการติดตั้งข้อมูลดังกล่าวไว้ในระบบของท่านแล้ว หากมีการใช้ “คุกกี้” จะทําให้สามารถบันทึกหรือจดจําข้อมูลของผู้ใช้บริการไว้ จนกว่าผู้ใช้บริการจะออกจากโปรแกรม Web Browser หรือจนกว่าผู้ใช้บริการจะทําการลบ “คุกกี้” นั้นเสีย หรือไม่อนุญาตให้ “คุกกี้” นั้นทํางานอีกต่อไป ทั้งนี้ มกอช. จะนําข้อมูลที่ “คุกกี้” ได้บันทึกหรือเก็บรวบรวมไว้ ไปใช้ในการวิเคราะห์เชิงสถิติ หรือในกิจกรรมอื่นของ มกอช. เพื่อปรับปรุงคุณภาพการให้บริการของ มกอช. ต่อไป
6. การปรับปรุงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
มกอช. อาจทําการปรับปรุงหรือแก้ไขนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโดยมิได้แจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ เพื่อความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพในการให้บริการ ดังนั้น มกอช. จึงขอแนะนําให้ผู้ใช้บริการอ่านนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทุกครั้งที่เยี่ยมชม หรือมีการใช้บริการแพลตฟอร์ม DGTFarm ของ มกอช.
7. สิทธิของเจ้าของข้อมูล
ภายใต้บังคับของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ผู้ใช้อาจมีสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ ดังต่อไปนี้
7.1 ผู้ใช้มีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้ใช้ได้ให้ความยินยอมกับ มกอช. ได้ ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้อยู่กับ มกอช. อย่างไรก็ตาม หากผู้ใช้ถอนความยินยอมของผู้ใช้ มกอช. อาจไม่สามารถอำนวยความสะดวก ติดต่อสื่อสาร หรือให้บริการบางส่วนหรือทั้งหมดแก่ผู้ใช้ได้
7.2 ผู้ใช้มีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้และขอให้ มกอช. ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ผู้ใช้
7.3 ผู้ใช้มีสิทธิในการขอให้ มกอช. แก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน หรือ เพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์
7.4 ผู้ใช้มีสิทธิที่จะร้องขอให้ มกอช. ลบ หรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ไม่สามารถระบุตัวตนได้ในบางกรณี ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
7.5 ผู้ใช้มีสิทธิที่จะร้องขอให้ มกอช. ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ หรือส่งข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้นั้นไปยังองค์กรอื่น
7.6 ผู้ใช้มีสิทธิที่จะคัดค้าน หรือยับยั้งไม่ให้ มกอช. เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ในบางกรณี ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
7.7 ผู้ใช้มีสิทธิที่จะร้องเรียนไปยังหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจหากเชื่อว่า มกอช. ไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ผู้ใช้สามารถใช้สิทธิเหล่านี้ได้โดยการติดต่อ มกอช. ตามช่องทางการติดต่อที่ปรากฏในข้อ 9
8. การถอนความยินยอมในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
8.1 ท่านสามารถถอนความยินยอมในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อใดก็ได้ โดยติดต่อ มกอช. เพื่อถอนความยินยอมในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลตามช่องทางการติดต่อที่ปรากฏในข้อ 9
8.2 ในการถอนความยินยอมในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจะเป็นการ deactivate สถานะสมาชิก มีผลทำให้ท่านไม่สามารถเข้าถึงหน้า Profile ของตนเองได้อีก
8.3 โปรไฟล์ของผู้ใช้ที่ยกเลิกสำเร็จแล้วจะไม่สามารถเข้าถึงได้ แต่ยังมีการเก็บข้อมูลไว้ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ในกรณีที่อาจมีเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจตามกฎหมายเรียกขอข้อมูลตามกำหนดเวลาที่ระบุไว้ในกฎหมาย
9. การถอนความยินยอมในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย ข้อเสนอแนะ หรือข้อติชมใดๆ เกี่ยวกับนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือการปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ มกอช. ยินดีที่จะตอบข้อสงสัย รับฟังข้อเสนอแนะ และคําติชมทั้งหลาย อันจะเป็นประโยชน์ต่อการปรับปรุงการให้บริการของ มกอช. ต่อไป โดยท่านสามารถติดต่อกับ มกอช. ตามที่อยู่ที่ปรากฏข้างล่างนี้
ที่อยู่ : สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ
50 ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
โทรศัพท์ : 0-2561-2277
Email : itc@acfs.go.th
รายละเอียดสินค้า : Singora Microgreen
Microgreens" คืออะไร
ไมโครกรีน คือต้นกล้าขนาดเล็ก หรือต้นอ่อนที่เพาะจากเมล็ดของพืช ผัก สมุนไพรชนิดต่างๆ และเจริญเติบโตจนมีใบจริง 2-3 ใบ ขนาดความสูงของต้นกล้าขนาดที่รับประทานได้ประมาณ 2-3 นิ้
จุดเด่นของไมโครกรีน
ทำไมไมโครกรีนจึงมีคุณค่าทางสารอาหารมากกว่าผักทั่วไป
ในต้นอ่อนจะอุดมไปด้วยสารอาหารทั้งหมดที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช ยิ่งต้นกล้ามีอายุมากขึ้นสารอาหารก็จะค่อยๆ ถูกใช้ไปในการเจริญเติบโต ดังนั้นหากเก็บเกี่ยวในระยะเวลาที่เหมาะสมก็จะได้รับคุณค่าทางอาหารสูงสุด
ไมโครกรีนเหมาะกับใคร
ผักไมโครกรีนเหมาะกับทุกเพศทุกวัย ผู้ที่ชอบกินผักอยู่แล้ว เพิ่มไมโครกรีนในอาหารก็จะยิ่งได้รับสารอาหารเพิ่มมากขึ้น ส่วนผู้ที่ไม่ชอบกินผักทั้งผู้ใหญ่และเด็กๆ แค่ใส่ไมโครกรีนในอาหารเพียงเล็กน้อยก็สามารถได้รับสารอาหารมากเท่ากับกินผักทั่วไปจานใหญ่ๆ ได้แล้ว
ปัจจุบันกระแสความนิยมผักไมโครกรีน กำลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยสีสันที่สวยงาม เนื้อสัมผัสที่กรอบอร่อย และรสชาติที่เข้มข้น จึงนิยมนำมารับประทานสดมากกว่านำมาผ่านกระบวนการปรุง เช่น ใส่ในสลัด แซนด์วิช หรือตกแต่งจานอาหาร
ความแตกต่างของ ผักงอก (sprouts) และไมโครกรีน (microgreen)
ทั้งผักงอกและไมโครกรีน ล้วนเป็นผลผลิตที่ได้จากการนำเมล็ดมากระตุ้นให้งอก แต่แตกต่างกันที่ช่วงเวลาเก็บเกี่ยว
ผักงอก เป็นต้นอ่อนที่งอกแล้วยังมีส่วนของใบเลี้ยงที่ทำหน้าที่เก็บสะสมสารอาหารอยู่ ใช้เวลาเติบโต 2-7 วัน จึงมักบริโภคทั้งต้น
ไมโครกรีน จะเจริญเติบโตต่อหลังจากต้นอ่อน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ ส่วนของใบเลี้ยงจึงไม่มีสารอาหารหลงเหลืออยู่และหลุดร่วง ในขณะที่มีการเติบโตของใบแท้จำนวน 2-3 ใบ มักบริโภคเฉพาะส่วนลำต้นเหนือดิน
การปลูกผักกินเองอาจไม่ยากขนาดนั้นในยุคที่เรามี ตะกร้าผักมีชีวิต แต่การปลูกผักให้ ‘พอกิน’ เกือบทุกมื้อก็ยังดูเป็นเรื่องท้าทายสำหรับคนเมืองอยู่ดี แต่เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งถอดใจ ถ้ายังไม่ได้ทำความรู้จักกับการปลูกผักเล็กจิ๋วแต่ประโยชน์แจ๋วต่อไปนี้ที่เราอยากแนะนำ
ผักงอก ต้นอ่อน และไมโครกรีน (Microgreens)
เราอาจเรียกรวมต้นกล้าของพืชผักที่นำมากินว่า ‘ต้นอ่อน’ แต่จริงๆ แล้วในวงการอาหารแบ่งชนิดของต้นกล้าออกเป็น 3 แบบตามอายุตอนเก็บเกี่ยวและชนิดของพืชที่นำมาเพาะเลี้ยง คือ ผักงอก ต้นอ่อน และไมโครกรีน เริ่มจาก ‘ผักงอก’ คือต้นอ่อนที่งอกขึ้นจากเมล็ดถั่ว ไม่ว่าจะถั่วเขียวที่กลายเป็นถั่วงอก ถั่วแดง ถั่วดำ หรือถั่วลิสงก็นิยมนำมาเพาะกินเช่นกัน โดยระยะเก็บเกี่ยวของผักงอกจะอยู่ระหว่าง 2-7 วันแล้วแต่ชนิดของถั่วที่นำมาเพาะ ส่วน ‘ต้นอ่อน’ (Sprouts) คือต้นกล้าของผักชนิดต่างๆ ที่นำมาเพาะราว 7-10 วันแล้วถึงเก็บกิน ชนิดที่เรารู้จักกันดีก็เช่น ต้นอ่อนทานตะวัน ต้นอ่อนหัวไชเท้า (ไควาเระ) หรือต้นอ่อนถั่วลันเตา (โต้วเหมี่ยว)
‘ไมโครกรีน’ ต้นกล้าที่กำลังเป็นกระแสอยู่ตอนนี้
ไมโครกรีนเป็นที่รู้จักครั้งแรกช่วงกลางยุค 80s เมื่อร้านอาหารในแคลิฟอเนียร์นำต้นกล้าของผักโขมสีแดงระเรื่อมาใช้ตกแต่งเมนูอาหารจนฮือฮา โดยไม่รู้เลยว่าพวกมันอุดมด้วยวิตามินมหาศาล แต่จากนั้นไม่นานนักโภชนาการก็พบว่าผักจิ๋วเหล่านี้มีสารอาหารมากกว่าผักโตเต็มวัยซะอีก ไม่ว่าจะต้นอ่อนของกะหล่ำปลีที่มีวิตามินซีสูงกว่ากะหล่ำปลีหัวใหญ่ๆ ถึง 40 เท่าในสัดส่วนเท่ากัน หรือต้นอ่อนของผักชีเองก็มีเบต้าแคโรทีนมากกว่าต้นผักซีที่เราใช้โรยหน้าถึง 3 เท่า! ทว่ากระแสไมโครกรีนก็เงียบหายไปราวกลางยุค 90s ก่อนกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งพร้อมเทรนด์กินดีอยู่ดีเมื่อเร็วๆ นี้
ข้อแตกต่างหลักๆ ระหว่างไมโครกรีนกับผักงอกและต้นอ่อน คือระยะเวลาการเก็บเกี่ยวที่นานกว่า คือประมาณ 1-2 อาทิตย์หลังลงเมล็ด (กะง่ายๆ ว่าต้นกล้ามีความสูงราว 3 นิ้วก็พร้อมเก็บ) และเมล็ดผักที่ใช้เพาะไมโครกรีนนั้นมักมีขนาดเล็กจิ๋วระดับใกล้เคียงเม็ดทราย สำคัญคือคุณค่าทางอาหารของมันเพียบกว่าต้นกล้าอีก 2 ชนิดแบบทิ้งห่าง ตัวอย่างเมล็ดผักที่นิยมนำมาเพาะก็เช่น ผักบุ้ง กะหล่ำปลี ผักชี และผักโขม
ผักพื้นบ้านไทยก็เพาะเป็นไมโครกรีนได้เหมือนกัน
ที่เราว้าวคือ ผลวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ บอกเราว่าผักพื้นบ้านที่เวิร์กสำหรับการนำมาเพาะคือ โสน ผักขี้หูด และผักเขียวน้อย เพราะต้นอ่อนที่ได้ทั้งอวบ รสชาติดี มีวิตามินซีสูงมากแถมยังช่วยเจริญอาหารด้วย
อยากลองเพาะไมโครกรีนกินเองบ้าง ทำยังไง?
ไม่ยาก เมื่อขึ้นชื่อว่าผักจิ๋วย่อมเรียกร้องพื้นที่น้อย น้ำน้อย และดินน้อย ใครอยากลองลงมือก็สำรวจลิสต์ต่อไปนี้แล้วทำตามได้เลย!
1.เตรียมภาชนะ เช่น กล่องโฟมหรือถาดฟอยล์ เจาะรูตรงก้นให้ระบายน้ำสะดวก
2. นำดินร่วนเทใส่ภาชนะให้สูงประมาณ 1 นิ้ว เกลี่ยหน้าดินให้เรียบแต่อย่าอัดดินจนแน่น
3. โปรยเมล็ดพืชที่ต้องการลงบนหน้าดิน เกลี่ยให้ทั่ว แล้วใช้ฝ่ามือกดเมล็ดพืชลงกับดินเบาๆ (ใครตามหาเมล็ดผักชนิดปลอดภัยหายห่วง เราแนะนำเพจเมล็ดพันธุ์ปู่-ย่า คลิกเดียวส่งถึงบ้าน)
4. นำดินร่วนโปรยกลบเมล็ดพืชบางๆ แล้วใช้ฟ็อกกี้ฉีดพรมน้ำเล็กน้อย จากนั้นนำพลาสติกใสปิดทับหน้าภาชนะ แล้วนำไปตั้งไว้ในที่แดดส่องถึง
5. หมั่นเปิดพลาสติกใส แล้วฉีดน้ำพรมเช้าเย็น (อย่าให้แฉะ) รอจนกว่าต้นอ่อนงอกออกมาแล้วถึงเอาพลาสติกใสทิ้ง แต่ยังต้องหมั่นฉีดน้ำเช้าเย็นต่อไปเรื่อยๆ จนต้นกล้าโตราว 3 นิ้วก็เก็บกินได้
อย่างที่บอกว่าไมโครกรีนมีสารอาหารเพียบในระดับผักโตเต็มวัยยังอาย อร่อย ปลูกก็ง่ายแสนง่ายแถมใช้พื้นที่น้อย (อยากเก็บกินบ่อยหน่อยก็ปลูกหลายถาด) จึงไม่เกินไปหากเราจะยกให้เจ้าผักจิ๋วเหล่านี้เป็นทางเลือกใหม่ที่ช่วยทำให้สุขภาพของคนเมืองดีได้โดยไม่ต้องพึ่งพาวิตามินสำเร็จรูป